เรื่องย่อละคร รักต้องอุ้ม ทางช่อง 3
- ชื่อละครเรื่อง : รักต้องอุ้ม
- ออกอากาศทาง : ช่อง 3
เนื้อเรื่องย่อละคร รักต้องอุ้ม
บทเรื่องย่อ รักต้องอุ้ม
1.ละคร รักต้องอุ้ม บทประพันธ์ เพชรไพลิน
2.ละคร รักต้องอุ้ม บทโทรทัศน์ เบญจธารา
3.ละคร รักต้องอุ้ม กำกับการแสดงโดย แมน เมธี
4.ละคร รักต้องอุ้ม ผลิตโดย ผู้จัด จริยา แอนโฟเน บริษัทเมกเกอร์ เจ กรุ๊ป จำกัด
5.ละคร รักต้องอุ้ม ออกอากาศทุกวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ เวลา 20.15 นาฬิกา ทางทีวีออนไลน์ช่อง 3 เริ่ม 17 สิงหาคมนี้
ด้วยคำสัญญาที่ว่า เราจะเป็นเพื่อนกันตลอดไป สิปาดันกับลันตาต่างรักษาคำสัญญามายาวนานนับสิบปี แม้ว่าลึก ๆ เพื่อนสนิทจะแอบคิดไม่ซื่อต่อกันก็ตาม แต่เมื่อกามเทพตัวน้อยหล่นปุ๊ลงมาล็อคหัวใจทั้งคู่ให้เป็นหนึ่งเดียวกัน เมื่อหัวใจไม่อาจเก็บความรู้สึกไว้ได้ต่อไป แต่คำสัญญาแห่งมิตรภาพค้ำคอ หนึ่งมิตรอย่างสิปาดัน ต้องฟิตให้หนักถ้าคิดจะคว้ารักครั้งนี้มาครอง
ในขณะที่ชีวิตของ ลันตาหรือ ภีรนีย์ คงไทย กำลังจะประสบความสำเร็จ ได้เลื่อนเป็นบรรณาธิการนิตยสารผู้หญิง แถมความสัมพันธ์กับ อนุชิต หรืออดิสร อรรถกฤษณ์ ผู้บริหารหนุ่มสุดหล่อก็กำลังคืบหน้า ไปได้ดี โดยมีเพื่อนซี้ ธัญญาเรศ หรืออริสรา ทองบริสุทธิ์ และ แพท หรือเจสสิก้า ภาสะพันธุ์
ซึ่งทำงานอยู่ด้วย ได้ช่วยเชียร์ แต่แล้วฝันของลันตาก็สลายเพราะ อรขจี หรือนาตาลี เดวิส ภรรยาของอนุชิตมาประกาศตัวที่บริษัท แถมไล่ตบตีลันตา ด้วยความโมโห ลันตาขอลาออก ฝันทุกอย่างสลายไปในพริบตา
แต่ทว่า เท่านั้นยังไม่พอ ในขณะลันตาจะขับรถกลับบ้าน กลับได้มีกล่องใส่เด็กหกเดือนอยู่ใต้ท้องรถ ลันตาไม่รู้จะทำอย่างไร จะเอาเด็กกลับบ้านก็กลัว ย่ามาลัย หรือดวงตา ตุงคะมณี จอมเฮี๊ยบ ก็เลยพาตาหนู หรือน้องเทรย์-ไทยซัน ไปที่คอนโดของ สิปาดัน หรือวรินทร ปัญหกาญจน์ ซึ่งเป็นนักบินหนุ่มหล่อเจ้าเสน่ห์ เพื่อนรักเพื่อนซี้ของเธอ สิปาดันพอเห็นเด็กก็โวยวายให้ลันตาเอาไปแจ้งความที่โรงพัก
แต่ทว่า เท่านั้นยังไม่พอ ในขณะลันตาจะขับรถกลับบ้าน กลับได้มีกล่องใส่เด็กหกเดือนอยู่ใต้ท้องรถ ลันตาไม่รู้จะทำอย่างไร จะเอาเด็กกลับบ้านก็กลัว ย่ามาลัย หรือดวงตา ตุงคะมณี จอมเฮี๊ยบ ก็เลยพาตาหนู หรือน้องเทรย์-ไทยซัน ไปที่คอนโดของ สิปาดัน หรือวรินทร ปัญหกาญจน์ ซึ่งเป็นนักบินหนุ่มหล่อเจ้าเสน่ห์ เพื่อนรักเพื่อนซี้ของเธอ สิปาดันพอเห็นเด็กก็โวยวายให้ลันตาเอาไปแจ้งความที่โรงพัก
แต่ว่าลันตาห่วงว่าเด็กจะไม่ปลอดภัย ก็เลยได้อ้อนวอนขอเลี้ยงเด็กที่คอนโดโดยโกหกย่าว่าจะไปทำงานต่างจังหวัด แต่ที่แท้เอาเวลามาช่วยเลี้ยงเด็ก แต่ว่าการเลี้ยงเด็กกับสิปาดัน ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเด็กร้องไห้งอแงตลอดเวลา งานนี้ได้เพื่อนบ้านแสนดีอย่าง พอล หรือธนกฤต พานิชวิทย์ และ มิ้งค์ หรือจรินทร์พร จุนเกียรติ ซึ่งเป็นรุ่นน้องที่มหาวิทยาลัยที่เคยมาฝึกงานกับลันตา มาคอยช่วยดูแล รวมทั้งแพทด้วย สิปาดันคิดจะเอาเด็กไปแจ้งความโรงพัก แต่สุดท้ายก็ตัดใจ ทำไม่ได้ ใจอ่อนยอมช่วยลันตาเลี้ยงเด็ก
หลังจากนั้นลันตาชวนสิปาดันไปเชียงใหม่ เพราะว่าได้เบาะแสคนที่เอาเด็กมาทิ้ง โดยมีเพื่อนของสิปาดันคือ กีรติ หรือโกสินทร์ ราชกรม ซึ่งได้แอบชอบลันตา และแพท ตามไปด้วยกันโดยไปพักกันที่บ้าน ย่านวล หรือดวงใจ หทัยกาญจน์ คุณย่าของสิปาดัน และ อินทนนท์ หรือศานติ สันติเวชกุล ซึ่งเป็นพ่อของสิปาดัน ซึ่งทำให้เจอกับ เอื้องคำ หรือทัศน์วรรณ เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา และ มะนาว หรือภัทรินทร์ เจียรสุข แฟนเก่าของสิปาดันที่เลิกรากันไป
หลังจากนั้นลันตาชวนสิปาดันไปเชียงใหม่ เพราะว่าได้เบาะแสคนที่เอาเด็กมาทิ้ง โดยมีเพื่อนของสิปาดันคือ กีรติ หรือโกสินทร์ ราชกรม ซึ่งได้แอบชอบลันตา และแพท ตามไปด้วยกันโดยไปพักกันที่บ้าน ย่านวล หรือดวงใจ หทัยกาญจน์ คุณย่าของสิปาดัน และ อินทนนท์ หรือศานติ สันติเวชกุล ซึ่งเป็นพ่อของสิปาดัน ซึ่งทำให้เจอกับ เอื้องคำ หรือทัศน์วรรณ เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา และ มะนาว หรือภัทรินทร์ เจียรสุข แฟนเก่าของสิปาดันที่เลิกรากันไป
โดยที่ตัวของมะนาวรู้ว่าสิปาดันเลือกที่จะรักลันตามากกว่า แต่เธอก็พยายามจะกลับมาสานสัมพันธ์ กลายเป็นรักสามเส้า และในระหว่างทางที่ตามหาคนทิ้งเด็กก็วุ่นวาย เพราะคนบงการเอาเด็กมาทิ้ง จ้างคนไปปิดปากคนที่อุ้มเด็กมาไว้ท้ายรถลันตา ที่ยุ่งไปกว่านั้นคือทั้งสี่คนไล่ล่าผู้ร้ายจนสลับคู่หลงป่า และที่สุดก็กลับกรุงเทพฯอย่างคว้าน้ำเหลว
นั่นทำให้ลันตาต้องอ่านตำราเลี้ยงเด็ก ประหนึ่งเป็นแม่ของเด็กน้อย สิปาดันก็จำใจต้องเป็นคุณพ่อของเด็กด้วย แต่ก็ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่สานต่อใกล้ชิดยิ่งขึ้น สิปาดันที่แอบหลงรักลันตามานานมากแล้ว ก็ค่อยๆ เผยใจออกมา
ในขณะที่ความรักของทั้งคู่กำลังจะไปได้ดี แต่ว่ายังไม่ทันเปิดใจกัน ก็ต้องมีปัญหา เมื่อ พิธาน หรือเจสัน ยัง ได้ปรากฏตัวขึ้นในฐานะเจ้าของผู้ผลิตหนังสือเล่มใหม่ ซึ่งลันตาไปเป็นบรรณาธิการ และได้ร่วมทุนกับ สุวิภา หรือสุรัตนา ข้องตระกูล และ รัชนี หรือสุปราณี เจริญผล
ในขณะที่ความรักของทั้งคู่กำลังจะไปได้ดี แต่ว่ายังไม่ทันเปิดใจกัน ก็ต้องมีปัญหา เมื่อ พิธาน หรือเจสัน ยัง ได้ปรากฏตัวขึ้นในฐานะเจ้าของผู้ผลิตหนังสือเล่มใหม่ ซึ่งลันตาไปเป็นบรรณาธิการ และได้ร่วมทุนกับ สุวิภา หรือสุรัตนา ข้องตระกูล และ รัชนี หรือสุปราณี เจริญผล
โดยที่การมาครั้งนี้ของพิธานมีเป้าหมายสำคัญคือต้องการที่จะให้ลันตา นั้นกลับมารัก เพราะว่าพิธานเป็นอดีตรุ่นพี่มหาวิทยาลัยที่เป็นแฟนเก่าของลันตา แต่เลิกรากันไปเพราะ รู้ดีว่าใจของลันตาอยู่ที่สิปาดัน แต่ครั้งนี้เขาต้องการกลับมาเอาชนะสิปาดันให้ได้ โดยที่เขาได้ร่วมมือกับมะนาว และธัญญาเรศร่วมวางแผนการร้ายต่างๆ เพื่อให้ลันตากับสิปาดันผิดใจกัน ทั้งยังเปิดเผยให้ย่ามาลัยรู้ว่าสิปาดันและลันตาอยู่ด้วยกันในคอนโด ทำให้ย่ามาลัยโมโหมาก
หลังจากเหตุการณ์นั้นสิปาดัน,ย่านวลและพ่ออินทนนท์ปรึกษากัน จึงได้ไปขอขมาย่ามาลัยที่บ้าน พร้อมกับรับผิดชอบขอลันตาแต่งงาน แต่ย่ามาลัยดื้อแพ่ง ให้พิธานพา น้าวัน หรือปริศนา กล่ำพินิจ พี่สาวเป็นผู้ใหญ่มาสู่ขอแข่งกัน ทั้งยังกดดันลันตา จนเธอต้องยอมตามย่านวลหมั้นกับพิธานด้วยความไม่เต็มใจ แต่ย่ามาลัยใช่ว่าจะไม่รักลันตา
หลังจากเหตุการณ์นั้นสิปาดัน,ย่านวลและพ่ออินทนนท์ปรึกษากัน จึงได้ไปขอขมาย่ามาลัยที่บ้าน พร้อมกับรับผิดชอบขอลันตาแต่งงาน แต่ย่ามาลัยดื้อแพ่ง ให้พิธานพา น้าวัน หรือปริศนา กล่ำพินิจ พี่สาวเป็นผู้ใหญ่มาสู่ขอแข่งกัน ทั้งยังกดดันลันตา จนเธอต้องยอมตามย่านวลหมั้นกับพิธานด้วยความไม่เต็มใจ แต่ย่ามาลัยใช่ว่าจะไม่รักลันตา
แต่เมื่อเห็นตาหนูและความรักของลันตาและสิปาดันที่มีต่อกัน สุดท้ายก็ใจอ่อนยอมให้ลันตาเป็นคนตัดสินใจเลือกคู่ชีวิตเอง ทำให้ลันตาดีใจมาก ขณะที่สิปาดันสารภาพรักลันตาและขอแต่งงาน ย่ามาลัยยอมละทิฐิให้ทั้งคู่แต่งงานกันอย่างมีความสุข ท่ามกลางความไม่ยอมแพ้ของพิธานและมะนาว ที่ยังคิดจะเอาชนะ และแยกสิปาดันกับลันตาให้ห่างกันให้ได้ แม้ว่าจะแต่งงานแล้ว
และนอกจากพิธานจะหาเรื่องป่วนชีวิตคู่ของสิปาดันและลันตาแล้ว ก็ยังคอยหาเรื่องกลั่นแกล้งพอล และมิ้งค์ด้วย เพราะหมั่นไส้ อยากเอาชนะ ไม่อยากให้พอล ในฐานะที่เป็นน้องชายที่พี่สาววัน ส่งเสียให้เรียนและทำงานจนเจริญก้าวหน้า ทั้งพิธานและพอลหมั่นไส้และเกลียดชังกันอยู่ในที พิธานคอยค่อนแคะพี่สาวที่ดูแลพอลอย่างดี พอลโมโหมากที่พิธานกลั่นแกล้งมิ้งค์ต่างๆนานา แล้วยังทำให้พ่อแม่ของมิ้งค์เข้าใจพอลผิดจนไม่ยอมให้คบหากับมิ้งค์
ในขณะเดียวกันที่ลันตาและสิปาดันก็เริ่มรู้ว่าตาหนูเป็นลูกของอนุชิตกับอรขจีที่ธัญญาเรศขโมยมา เพราะธัญญาเรศเป็นเมียเก็บของอนุชิต โมโหที่อนุชิตไม่ยอมจัดการเรื่องหย่า และยังทำท่าจะชอบลันตาแล้วเขี่ยเธอทิ้งอีก ด้านมะนาวก็วางแผนการร้ายที่จะทำให้สิปาดันกับลันตาเลิกกันให้ได้
และเรื่องราวความรักวุ่นวายของสิปาดัน และ ลันตา จะเจออุปสรรคอย่างไรบ้าง รวมทั้งอนาคตของตาหนู ก็ต้องติดตามชมในละครเรื่อง รักต้องอุ้ม 17 สิงหาคมนี้ดูทีวีออนไลน์
โดยทีรายชื่อนักแสดงละครเรื่อง รักต้องอุ้ม ดังนี้
1.วรินทร ปัญหกาญจน์ แสดงเป็น สิปาดัน
2.ภีรนีย์ คงไทย แสดงเป็น ลันตา
3.ธนกฤต พานิชวิทย์ แสดงเป็น พอล
4.จรินทร์พร จุนเกียรติ แสดงเป็น มิ้งค์
5.โกสินทร์ ราชกรม แสดงเป็น กีรติ
6.เจสสิกา ภาสะพันธุ์ แสดงเป็น แพท
7.อริสรา ทองบริสุทธิ์ แสดงเป็น ธัญญาเรศ
8.อดิสร อรรถกฤษณ์ แสดงเป็น อนุชิต
9.นาตาลี เดวิส แสดงเป็น อรขจี
10.เจสัน ยัง แสดงเป็น พิธาน
11.ภัทรินทร์ เจียรสุข แสดงเป็น มะนาว
12.ดวงตา ตุงคะมณี แสดงเป็น ย่ามาลัย
13.ดวงหทัย ศรัทธาทิพย์ แสดงเป็น ป้าอัง
14.ศานติ สันติเวชกุล แสดงเป็น อินทนนท์
15.ดวงใจ หทัยกาญจน์ แสดงเป็น ย่านวล
16ทัศน์วรรณ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา แสดงเป็น เอื้องคำ
17.สุรัตนา ข้องตระกูล แสดงเป็น สุวิภา
18สุปราณี เจริญผล แสดงเป็น รัชนี
19ปริศนา กล่ำพินิจ แสดงเป็น น้าวัน
20.วิวัฒน์ ผสมทรัพย์ แสดงเป็น กัปตันธีระ
21.ริชาร์ด เกียร์นี่ แสดงเป็น เหนือ
22.น้องเทรย์ แสดงเป็น ตาหนู
รูปภาพละคร รักต้องอุ้ม
1.ผู้จัดละคร : จริยา แอนโฟเน บริษัทเมกเกอร์ เจ กรุ๊ป จำกัด
2.ผู้กำกับ : แมน เมธี
3.บทประพันธ์ : เพชรไพลิน
4.บทละคร : เบญจธารา
5.นักแสดงนำ : 1.วรินทร ปัญหกาญจน์, 2.ภีรนีย์ คงไทย, 3.ธนกฤต พานิชวิทย์, 4.จรินทร์พร จุนเกียรติ
หลังจากที่ละครเรื่องทองเนื้อเก้า คว้ารางวัลละครต่างประเทศยอดเยี่ยม จากเทศกาลละครนานาชาติประเทศ ญี่ปุ่น
โดยที่ ทองเนื้อเก้า คว้ารางวัล ละครต่างประเทศยอดเยี่ยม
ต้องขอแสดงความยินดีกับละครไทยเรื่อง ทองเนื้อเก้า ของผู้กำกับมากฝีมืออย่าง อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง ที่ล่าสุดคว้ารางวัลละครต่างประเทศยอดเยี่ยม ประจำปี 2557 จากงานเทศกาลละครนานาชาติ International Drama Festival in Tokyo 2014 ที่ประเทศญี่ปุ่น
ซึ่งหากลองย้อนกลับไป จะเห็นได้ว่าละครของไทยล้วนคว้ารางวัลดังกล่าวมาแล้วติดต่อกันถึง 3 ปี ซึ่งละครทองเนื้อเก้าถือเป็นเรื่องที่ 4 สำหรับละครไทยที่ไปคว้ารางวัลมาก่อนหน้านี้ ได้แก่
1.วนิดา
2.รอยไหม และ
3.ขุนศึก ทั้งนี้ อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ จะเดินทางไปรับรางวัล และร่วมเดินพรมเขียวในงานดังกล่าว ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 22-24 ตุลาคมนี้ ที่ประเทศญี่ปุ่นด้วย
ละครเรื่องนี้ ชาคริต โชว์แมนคุกเข่า ขอแต่งงาน ชมพู่ ฉากแรกใน ทรายสีเพลิง
หลังจากที่ได้ลัดคิว ติดจรวดมาเสิร์ฟความสนุกให้คุณผู้ชมถึงหน้าจอช่อง 3 กันแบบร้อนฉ่า ควันพุ่งกันเลยทีเดียว สำหรับละครดราม่าเข้มข้น เนื้อหาร้อนแรง ดุเดือดทุกตอนอย่างเรื่อง ทรายสีเพลิง
ละครเรื่องนี้ ชาคริต โชว์แมนคุกเข่า ขอแต่งงาน ชมพู่ ฉากแรกใน ทรายสีเพลิง
โดยชาคริตได้งัดเสน่ห์ คุกเข่าขอแต่งงาน
ขอแต่งงาน ชมพู่
ที่ได้นักแสดงนำออร่าวิ้งอย่าง ชมพู่-อารยา เอ ฮาร์เก็ต มารับบทนำที่ท้าทายครั้งสำคัญในชีวิตการเป็นนางเอกเลยทีเดียว นอกจากนั้นยังมีสองพระเอกฝีมือเก๋ามาร่วมเติมเชื้อความร้อนแรงอย่าง ป๋อ-ณัฐวุฒิ สกิดใจ และ ชาคริต แย้มนาม
ได้มาร่วมด้วยผู้จุดไฟความร้อนแรง อย่าง ป้าแจ๋ว-ยุทธนา ลอพันธ์ไพบูลย์ ที่มารับหน้าที่กำกับการแสดงว่าแล้วสกู๊ปเกาะติดเบื้องลึกเบื้องหลังในตอนที่ 1 ก็คงต้องร้อนแรงไม่แพ้ดีกรีของนักแสดงเลยทีเดียว
ซึ่งฉากเบื้องหน้านั้นเป็นเรื่องราวตอนต้นที่เกิดขึ้นที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ช่วงที่ ชาร์ลส์ ที่รับบทโดย ชาคริต แย้มนาม ได้ถูกสาวหนึ่งเดียวในดวงใจ ทราย ที่รับบทโดย ชมพู่-อารยา เอากุญแจรถสุดหรูที่ประมูลแข่งกับคู่แข่งทั้งในชีวิตและธุรกิจ อย่าง อลัน ที่รับบทโดย ก๊อต-จิรายุ มาได้ และได้เอามาให้เป็นของขวัญกับชาร์ลส์
ซึ่งฉากเบื้องหน้านั้นเป็นเรื่องราวตอนต้นที่เกิดขึ้นที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ช่วงที่ ชาร์ลส์ ที่รับบทโดย ชาคริต แย้มนาม ได้ถูกสาวหนึ่งเดียวในดวงใจ ทราย ที่รับบทโดย ชมพู่-อารยา เอากุญแจรถสุดหรูที่ประมูลแข่งกับคู่แข่งทั้งในชีวิตและธุรกิจ อย่าง อลัน ที่รับบทโดย ก๊อต-จิรายุ มาได้ และได้เอามาให้เป็นของขวัญกับชาร์ลส์
ทำให้งานนี้หนุ่มเลยเซอร์ไพร์สกลับด้วยการคุกเข่าขอสาวเจ้าแต่งงานซะเลย เพราะหวังว่าความหวาน ความโรแมนติกของบรรยากาศรอบตัวจะเป็นใจ แต่ที่ไหนได้ ทราย กลับเฉไฉไปได้เหมือนเดิม
ซึ่งเรื่องราวเบื้องหน้าอ่อนหวานโรแมนติกชวนฝันไม่น้อย ส่วนเบื้องหลังก็มีไม่เบา เพราะทีมงานต้องไปปักหลักถ่ายทำกันที่ชั้นดาดฟ้าที่เป็นห้องสวีทของโรงแรมหรู กลางเมืองลอสแองเจอลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา
โดยสำหรับฉากนี้ต้องถ่ายกันในช่วงบ่าย เพื่อให้ได้มุมกล้องแพนไปเห็นป้ายสัญลักษณ์ ฮอลลีวู๊ด ที่เป็นเหมือนจุดสำคัญของเมืองนี้ สำหรับตัวนางเอกของเรา ชมพู่ ก็อยู่ในชุดราตรีสุดหรู ที่แทรกความเซ็กซี่ไว้ ทุกอนูของเรียวขา ส่วนทางด้านฝ่ายชาย ชาร์ลส์ก็อยู่ในชุดสูทสุดหล่อ และดูเหมือนว่า ชาคริต จะแฮปปี้กับการใส่สูทมากกว่าอยู่เมืองไทยเยอะเลย เพราะด้วยอาการของแอลเอวันนั้น เย็นสบายแบบไม่มีเหงื่อสักกะเม็ด และก่อนจะถ่ายทำจริง ป้าแจ๋ว ผู้กำกับฯ ก็เรียกทั้งชมพู่และชาคริตมาซ้อมความเข้าใจและมุมในการยืนให้
และแล้วก็ลงล๊อคเหมาะเหม็งที่สุด ส่วนในเรื่องของอารมณ์ป้าแจ๋วพูดประโยคสั้นๆ ว่า สมมติว่าพี่คริตกำลังจะขอป้าแจ๋วแต่งงานนะ จำไว้ว่ารักป้าแจ๋วมากด้วย เจอเข้าไปแบบนี้ ทั้งชาคริต ชมพู่ และทีมงานก็ปล่อยฮาไปตามๆ กัน
และแล้วก็ลงล๊อคเหมาะเหม็งที่สุด ส่วนในเรื่องของอารมณ์ป้าแจ๋วพูดประโยคสั้นๆ ว่า สมมติว่าพี่คริตกำลังจะขอป้าแจ๋วแต่งงานนะ จำไว้ว่ารักป้าแจ๋วมากด้วย เจอเข้าไปแบบนี้ ทั้งชาคริต ชมพู่ และทีมงานก็ปล่อยฮาไปตามๆ กัน
แต่พอหลังจากสิ้นเสียงหัวเราะของทุกคน ป้าแจ๋วก็สั่งเดินกล้องทันที ชาคริตก็ได้งัดเสน่ห์และแววตาที่ทำเอาอากาศหนาวๆ ดูจะอุ่นกรุ่นความโรแมนติกขึ้นมาทันที ซึ่งแม้แต่สาวชมพู่เองที่ดูจะยกนิ้วในความเป็นพระเอกที่พริ้วและอินกับบทมากที่สุดมาหลายต่อหลายซีนแล้ว ก็ต้องถึงกับอึ้งเขิน หน้าแดงไปเหมือนกัน ดีนะที่สาวชมพู่เองก็มีวิชาติดตัวมาไม่ใช่น้อย ทำให้ดึงอารมณ์และกลับมาคุมเกมส์ในซีนได้อย่างสวยงาม แถมยังเอ่ยปากปฏิเสธและเดินทิ้งให้ ชาคริต ต้องเหวอเก้อไปตามระเบียบ พอตั้งสติได้อีกทีก็ตอนสิ้นเสียงสั่งคัทของป้าแจ๋วนี่เอง
สำหรับความลงตัว ความเหมาะเจาะ ความพลิ้ว และฝีมือของนักแสดงทั้งสองคนนี้นั้นเหนือคำบรรยายจริงๆ ใครใจแข็ง ไม่ขนลุกกับซีนนี้รับรองว่าต้องไปพบแพทย์แน่นอน
สำหรับความลงตัว ความเหมาะเจาะ ความพลิ้ว และฝีมือของนักแสดงทั้งสองคนนี้นั้นเหนือคำบรรยายจริงๆ ใครใจแข็ง ไม่ขนลุกกับซีนนี้รับรองว่าต้องไปพบแพทย์แน่นอน
ติดตามรอดูการปะทะฝีมือของเหล่านักแสดงมากฝีมือเหล่านี้ ได้ในละครเรื่อง ทรายสีเพลิง
ซึ่งนำแสดงโดย
1.ชมพู่-อารยา
2.ป๋อ-ณัฐวุฒิ
3.ชาคริต แย้มนาม
4.มิว-นิษฐา
5.อาเล็ก-ธีรเดช
6.อาตั๊ก-มยุรา
7.พี่ต่าย-เพ็ญพักตร์ ร่วมด้วยนักแสดงอีกคับคั่ง
1.กำกับการแสดงโดย ป้าแจ๋ว-ยุทธนา ลอพันธ์ไพบูลย์
2.ควบคุมการผลิตโดย พี่จ๋า-ยศสินี ณ นคร
3.ออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3 ทุกวัน จันทร์ อังคาร เวลา 20.20 นาฬิกา เริ่มจันทร์ที่ 18 สิงหาคม นี้
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น